E-Commerce คืออะไร?
E-Commerce คือ ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์, อีคอมเมิร์ซ
E-Commerce เป็นการดำเนินการซื้อขายสินค้าและบริการด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรืออินเทอร์เน็ต
ข้อดี
-ไม่ต้องพึ่งหน้าร้าน ช่วยประหยัดต้นทุนด้านแรงงาน ค่าเช่าสถานที่
-เปิดขายได้ 24 ชั่วโมง ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา
-เพิ่มโอกาสในการขาย ขายได้ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
-ง่ายต่อการประชาสัมพันธ์ ใช้เพียงอุปกรณ์สื่อสารเชื่อมอินเทอร์เน็ตได้
-ทำการตลาดได้อย่างแม่นยำ สามารถวัดผลได้
ข้อเสีย
-ต้นทุนการบริหารจัดการเว็บไซต์ค่อนข้างสูงในช่วงแรก
-ต้องมีการปรับปรุงพัฒนาระบบให้สอดรับกับพฤติกรรมการใช้งาน และความต้องการของลูกค้าเสมอ
-เหมาะกับแบรนด์ที่ติดตลาดหรือเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว
-แบรนด์ใหม่ต้องมีการทำโฆษณา เพื่อโปรโมทให้คนรู้จักมากขึ้น
ประเภทธุรกิจ E–Commerce
ธุรกิจ B2C ( Business to Consumer )
คือ การทำธุรกิจซื้อขายระหว่างผู้ประกอบการและผู้บริโภคโดยตรง เช่นการขายสินค้า เสื้อผ้า อาหาร เป็นต้น
ธุรกิจ B2B (Business to Business)
คือ การทำธุรกิจซื้อขายกันระหว่างผู้ประกอบการและผู้ประกอบการ อย่างการขายส่งสินค้าจากโรงงานไปยังห้างร้านสำหรับนำไปขายให้ผู้บริโภค เป็นต้น
ธุรกิจ B2G (Business to Government)
คือ การทำธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการและภาครัฐ ซึ่งจะเป็นในด้านการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าที่จำเป็นสำหรับการใช้สอยภายในหน่วยงานผ่านทางอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
ธุรกิจ C2C (Consumer to Consumer)
คือ การทำธุรกิจซื้อขายกันระหว่างผู้บริโภคและผู้บริโภคด้วยกัน เช่นการซื้อ – ขาย สินค้ามือ 2 เป็นต้น
ธุรกิจ G2C (Government to Consumer)
คือ การทำธุรกิจซื้อขายกันระหว่างภาครัฐและประชาชน เช่นการใช้บริการต่าง ๆ ของภาครัฐผ่านทางอินเทอร์เน็ต การเสียภาษีออนไลน์ จดทะเบียนการค้า เป็นต้น
ธุรกิจ G2G (Government to Government)
คือ การทำธุรกิจซื้อขายกันระหว่างภาครัฐและภาครัฐ การทำข้อตกลงหรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
ประโยชน์ของ E-Commerce ต่อผู้ซื้อและผู้ขาย เพิ่มตัวเลือก ลดโอกาสผูกขาด
ธุรกิจ E-Commerce ช่วยเพิ่มตัวเลือกในการซื้อสินค้าให้กับผู้บริโภคมากขึ้น เกิดสินค้าใหม่ ๆ ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อแข่งขันกันในตลาด ลดโอกาสผูกขาดสินค้าของนายทุนเจ้าใหญ่ ๆ
การเปรียบเทียบราคา ได้สินค้าราคาถูก
เมื่อไม่มีการผูกขาดสินค้า ก็จะทำให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาถูกมากยิ่งขึ้น มีสินค้าที่หลากหลายให้เปรียบเทียบกันในด้านราคาและคุณภาพ เกิดการแข่งขันภายในธุรกิจที่ต้องผลิตของที่คุณภาพดีและราคาเหมาะสมออกมาสู่ท้องตลาดมากขึ้น
กระตุ้นเศรษฐกิจในยุคโควิด ให้ก้าวต่อไปได้
การขายสินค้าผ่านทางหน้าร้านจะต้องหยุดชะงัก แต่การขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ยังคงคึกคัก ผู้ขายสามารถทำธุรกิจและส่งตรงสินค้าสู่ผู้บริโภคได้ง่าย และอาจจะขยายฐานลูกค้าออกไปได้มากขึ้นอีกด้วย
กระตุ้นการปรับตัวของผู้บริโภค สู่สังคมไร้เงินสด
ผู้บริโภคสามารถปรับตัวสู่การซื้อสินค้าออนไลน์และการทำธุรกรรมทางออนไลน์ที่มีความสะดวกสบายกว่าได้ ซึ่งเป็นผลดีต่อธุรกิจ E-Commerce ที่สามารถเติบโตต่อไปได้จากการปรับตัวนี้เอง
ธุรกิจออนไลน์ไม่ว่าจะบนแพลตฟอร์ม Social Commerce หรือ E-Marketplace นอกจากจะต้องเลือกขายบนช่องทางที่สอดรับกับพฤติกรรมของลูกค้าได้อย่างถูกต้องแล้ว การบริการหลังการขายก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเข้าไปอยู่ในใจลูกค้า พัฒนาสินค้า การให้บริการให้สอดคล้องกับความต้องการ เสริมระบบหลังบ้านให้พร้อม มีการจัดการร้านค้าออนไลน์ จัดสต๊อกและออเดอร์ง่าย เรียกขนส่งสะดวก รับ COD รวดเร็ว เพื่อการขายอย่างคล่องตัวไม่มีสะดุด จะได้เป็นผลดีต่อธุรกิจ E-Commerce ที่สามารถเติบโตต่อไปได้จากการปรับตัวนี้เอง
ที่มา : fillgoods, aun-thai, heroleads, foretoday
เรียบเรียงโดย : nuttngow