ทำความรู้จักโซลูชัน AI-Powered Face Recognition
รู้จักให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ธุรกิจสามารถนำไปปรับใช้ สร้างความแตกต่าง และเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า หรือ Facial Recognition ถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางจากหลากหลายธุรกิจที่เข้ามาช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าในการทำ Onboarding เพื่อใช้บริการต่างๆ ผ่านการยืนยันตัวตน หรือแม้กระทั่งลดการสัมผัสด้วยการสแกนใบหน้าเพื่อเข้าไปในสถานที่ต่างๆ เรียกได้ว่ามีการนำ Facial
Recognition ไปใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น
เทคโนโลยี Face Recognition คืออะไร
เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า หรือ Facial Recognition คือการนำเทคโนโลยี Biometrics มาใช้ในการแยกแยะลักษณะต่างๆบนใบหน้าของมนุษย์เพื่อใช้ในการระบุตัวตนของบุคคลนั้นๆ โดยมีผลวิจัยจาก Allied Market Research ได้คาดการณ์ว่าตลาดของเทคโนโลยี Facial Recognition จะมีมูลค่าเติบโตถึง 9,600 ล้านดอลล่าร์สหรัฐภายในปี 2022
โดยในปัจจุบันเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าถูกนำมาใช้ในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การปลดล็อก การผ่านด่านตรวจความปลอดภัยที่สนามบิน การซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต และในกรณีของการให้ความบันเทิง
ยกตัวอย่างนักร้องชื่อดังอย่าง Taylor Swift ได้นำเทคโนโลยี Face Recognition มาช่วยติดตามว่ามีผู้ไม่ประสงค์ดีได้มาที่ประตูคอนเสิร์ต Rose Bowl ของเธอหรือไม่
ขั้นตอนการทำงานของ Face Recognitionโดยทั่วไปวิธีการทำงานของเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับอัลกอริทึ่มของแต่ละบริษัท แต่สามารถจัดลำดับขั้นตอนการทำงานได้เป็น 3 ขั้นตอน ดังนี้การตรวจจับใบหน้า (Detection) : เป็นกระบวนการค้นหาใบหน้าบนรูปถ่ายต่างๆ ถ้าคุณเคยใช้กล้องที่สามารถตรวจจับใบหน้าได้และขึ้นเป็นรูปกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆขึ้นมาตรงใบหน้าเมื่อใช้โหมด Auto-focus คุณจะได้เห็นถึงกระบวนการทำงานของจริงของขั้นตอนนี้ เนื่องจากการตรวจจับใบหน้าเป็นเพียงการค้นหาใบหน้าเท่านั้น ไม่ได้มีการระบุตัวตนว่าบุคคลนั้นเป็นใครการวิเคราะห์ หรือสิ่งบ่งชี้ (Analysis หรือ Attribution) : เป็นขั้นตอนการร่างใบหน้าซึ่งปกติจะทำโดยการวัดระยะห่างระหว่างดวงตา รูปร่างของคาง ระยะห่างระหว่างจมูกจนถึงปาก และหลังจากนั้นจะทำการเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ให้เป็นตัวเลขหรือจุดต่างๆ มักจะเรียกขั้นตอนนี้ว่า “Faceprint” หรือการสร้างโมเดลอ้างอิงการจำแนกใบหน้า (Recognition) : เป็นการหาวิธีที่จะยืนยันว่าบุคคลในรูปนี้คือใคร กระบวนการนี้ถูกใช้ในขั้นตอนการยืนยันตัวตน เช่นฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ หรือเป็นการระบุตัวตนที่ใช้เป็นวิธีในการตอบคำถาม บุคคลในรูปนี้คือใคร? นั่นเองการเพิ่มศักยภาพให้กับเทคโนโลยี Face recognition ด้วย AI ด้วยความสามารถของเทคโนโลยี AI และ Machine learning สามารถที่จะทำความเข้าใจความแตกต่างของลักษณะต่างๆบนใบหน้าได้โดยใช้สูตรทางคณิตศาสตร์ หลังจากนั้นระบบจะมองหาแพทเทิร์นในข้อมูลรูปภาพที่มีอยู่และเปรียบเทียบรูปหรือวิดีโอที่ได้มาใหม่กับข้อมูลเดิมที่ถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล เพื่อที่จะสามารถระบุตัวตนของแต่ละบุคคลได้ ทำให้การจำแนกแยกแยะใบหน้าและการยืนยันตัวตนสามารถทำได้อย่างแม่นยำรวดเร็วเป็นหลักวินาที จากการเทรนโมเดล AI ให้อ่านใบหน้าคนมาหลากหลายรูปแบบ รวมถึงสามารถทำงานได้ในรูปแบบอัตโนมัติทั้งหมดโดยที่ไม่ต้องใช้คนหรือพนักงานในการยืนยันตัวตน ทำให้รองรับปริมาณการทำธุรกรรมพร้อมๆกันเป็นจำนวนมากได้ ถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญของโซลูชัน AI-Powered Face Recognitionโซลูชัน AI-Powered Face Recognition Solution ช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจ ทำให้ธุรกิจสามารถให้บริการลูกค้าสะดวกและรวดเร็วได้มากยิ่งขึ้น โดยทำให้ลูกค้าสามารถสมัครเข้ามาใช้บริการต่างๆของธุรกิจ รวมถึงทำธุรกรรมต่างๆผ่านระบบออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง ช่วยประหยัดเวลาและจำนวนพนักงานในการให้บริการ ทำให้พนักงานมีเวลาในการที่จะให้บริการกับลูกค้าที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษได้มากยิ่งขึ้น

ประโยชน์ของโซลูชัน AI-Power Face Recognition ที่มีต่อธุรกิจ1.ยกระดับเรื่องความปลอดภัย : เริ่มจากเรื่องแรก คือการตรวจตราความปลอดภัย ด้วยความช่วยเหลือของเทคโนโลยี Facial Recognition ทำให้การติดตามเรื่องขโมย การลักทรัพย์ รวมทั้งผู้บุกรุกต่างๆสามารถทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และเมื่อพูดถึงในระดับประเทศ ระบบ Facial Recognition สามารถช่วยระบุตัวตนของผู้ก่อการร้าย หรือผู้ทำผิดกฎหมายอื่นๆเพียงใช้แค่การสแกนใบหน้าเท่านั้นนอกจากนั้นประโยชน์ที่ได้เพิ่มเติมคือไม่สามารถมีใครสามารถแฮ็กเทคโนโลยีนี้ได้ เนื่องจากไม่มีข้อมูลอะไรที่สามารถขโมยไปได้ เนื่องจากใบหน้าเป็นลักษณะเฉพาะบุคคล ไม่เหมือนกับข้อมูล Password ที่สามารถถูกขโมย หรือแฮ็กได้ รวมทั้งยกระดับความปลอดภัยในการทำธุรกรรมต่างๆบนอินเตอร์เน็ตอีกด้วย2.ประหยัดเวลา และบุคลากรที่ต้องใช้ขั้นตอนการยืนยันตัวตน : ด้วยความสามารถของเทคโนโลยี AI และ Machine learning ทำให้กระบวนการในการจำแนกใบหน้านั้นใช้เวลาแค่หลักวินาที หรือน้อยกว่านั้น หรือเรียกได้ว่าสามารถประมวลผลได้แบบทันที มีความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูงในการยืนยันตัวตน และมากไปกว่านั้นเป็นเรื่องยากมากที่จะสามารถหลอกระบบได้ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งประโยชน์ที่สำคัญของเทคโนโลยี Facial Recognition ซึ่งถือเป็นประโยชน์หลักที่ธุรกิจจะได้รับจากการนำเทคโนโลยี Facial Recognition มาปรับใช้ รวมถึงประหยัดบุคลากรที่เดิมต้องใช้ในการยืนยันตัวตน ทำให้พนักงานมีเวลาไปโฟกัสในงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้มากขึ้น3.เชื่อมต่อกับระบบอื่นๆได้อย่างง่ายดาย : ข้อนี้ถือเป็นประโยชน์ที่สำคัญที่สุดสำหรับบริษัท เนื่องจากโซลูชั่น AI-Powered Face Recognition นั้นสามารถเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆได้ง่าย จึงถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับองค์กรต่างๆ และยังไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติมในการเชื่อมต่อระบบ นอกจากนั้นระบบ Facial Recognition นั้นได้ถูกออกแบบมาให้สามารถทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆได้อยู่แล้ว4.การระบุตัวตนได้แบบอัตโนมัติ : แต่เดิมนั้นพนักงานรักษาความปลอดภัยต้องใช้ความสามารถในการจดจำใบหน้า เพื่อที่จะสามารถระบุตัวตนของแต่ละบุคคลได้ ซึ่งแน่นอนว่าความจำของมนุษย์นั้นมีจำกัด และต้องใช้เวลาในการจดจำ ซึ่งส่งผลต่อความแม่นยำที่อาจจะไม่ได้มีมากนัก แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยี Facial Recognition สามารถทำสิ่งนี้ได้ด้วยตัวระบบเองในกระบวนการการยืนยันตัวตน และไม่เพียงแต่ใช้เวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น ยังมีความแม่นยำสูงอีกด้วย5.สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าด้วยบริการที่สะดวก และรวดเร็ว : เนื่องจากลูกค้าสามารถใช้บริการของธุรกิจต่างๆได้ด้วยตัวเอง (Self-Service) ผ่านทางเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน ทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องเดินทางมาทำธุรกรรมตามสถานที่ต่างๆ ช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่ได้ใช้บริการ รวมทั้งในแง่ของธุรกิจเองก็สามารถทำให้ลูกค้ามาใช้บริการต่างๆได้ง่ายมากขึ้น เพิ่มรายได้ให้กับองค์กรที่มา : Blockdit AI GENเรียบเรียงโดย : nuttngow