Apple เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถในการกระตุ้น “ความอยาก” ของคนทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ Apple เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นประจำทุกปี
รู้หรือไม่ว่า การกระตุ้นความอยากของ Apple นี้ ไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นสิ่งที่ Apple วางแผนไว้เป็นอย่างดีจนอาจเรียกได้ว่าเป็นกลยุทธ์การ “ป้ายยา” ให้คนทั่วโลกอยากซื้อผลิตภัณฑ์ของ Apple แม้จะรู้ว่าเป็นของที่ไม่ได้มีความจำเป็นก็ตาม
Apple เป็นแบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำให้การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของตัวเองมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งสิ่งที่ Apple ทำนั้นเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ก่อนการจัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ด้วยซ้ำ เพราะหากลองสังเกตกันดี ๆ Apple จะชอบทำให้งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของตัวเองดูเป็นสิ่งที่มีความ “ลึกลับ” แม้หลายคนอาจเดากันได้อยู่แล้วว่าจะมีผลิตภัณฑ์ใดบ้างที่จะเปิดตัวตามวัฏจักรของผลิตภัณฑ์ในแต่ละปี แต่ในบางครั้ง Apple ก็เก็บ “เซอร์ไพรส์” ไว้รอคนทั่วโลกด้วยการพยายามเก็บรายละเอียดของผลิตภัณฑ์บางชนิดให้ดีที่สุด เพื่อสร้างความตื่นเต้น และความคาดหวังให้กับคนที่รอชมผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของตัวเองเช่นกัน
โดยเฉพาะการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีใครคาดคิดในช่วงสุดท้ายของงานซึ่งหากใครที่เป็นแฟนของ Apple และติดตามงานเปิดตัวอยู่บ่อย ๆ จะรู้ว่า Apple เรียกช่วงเวลาการเปิดตัวผลิตภัณฑ์นี้ว่า One More Thing
ตัวอย่างเช่น การเปิดตัว iPhone X ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ Apple พลิกโฉมการออกแบบ iPhone ใหม่ทั้งหมด ซึ่ง Apple เลือกที่จะสร้างความตื่นเต้นให้กับคนทั่วโลกด้วยการเปิดตัว iPhone X หลังจากเปิดตัว iPhone 8 และ iPhone 8 Plus เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่ความพยายามในการสร้าง “เซอร์ไพรส์” เท่านั้น ที่ทำให้การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของ Apple แต่ละครั้ง มีความน่าสนใจ เพราะ Apple ยังมีกลยุทธ์อื่น ๆ อยู่อีกมากที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอนวัตกรรมผ่านเรื่องราว
กลยุทธ์แรกที่เราเห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดก็คือ การสื่อสารนวัตกรรมใหม่ ๆ ผ่านการสร้างเรื่องราวต่าง ๆ ซึ่งหากสังเกตจะพบว่าก่อนที่ Apple จะเข้าสู่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่แต่ละชนิด Apple จะพูดถึงสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นจากนวัตกรรมของ Apple ก่อน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย การติดต่อสื่อสารกันได้อย่างราบรื่น และการทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น และแน่นอนว่าสิ่งที่ Apple เน้นย้ำก็คือ เรื่องราวเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากปราศจากผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของ Apple ไม่ว่าจะเป็น iPhone, Mac, iPad, Apple Watch และ AirPods
2. ใช้คำที่ฟังแล้ว “ว้าว” โน้มน้าวให้เชื่อ การเลือกใช้คำที่ฟังแล้วว้าวเพื่อเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความ “เหนือกว่า” ของผลิตภัณฑ์ที่ Apple กำลังนำเสนอ เช่น
- Best in Class (ดีที่สุด)
- Most Innovative (นวัตกรรมใหม่ที่สุด)
- Unique (แตกต่าง)
- Advance Technology (เทคโนโลยีขั้นสูง)
- Powerful (ทรงพลัง)
- Revolutionary (การปฏิวัติ หรือการเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง)
ซึ่งการใช้คำเหล่านี้บ่อย ๆ ก็จะเป็นการกระตุ้นให้คนทั่วโลกเชื่อในความเหนือกว่าซึ่งเป็นสิ่งที่ Apple ต้องการนำเสนอ
3. สร้างความเข้าใจด้วยความเรียบง่าย หนึ่งในปัญหาอย่างหนึ่งของคนที่ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสารด้านเทคโนโลยีก็คือการไม่เข้าใจ “Spec” ที่ยุ่งยาก ฟังแล้วดูซับซ้อน เช่น หน่วยประมวลผล หน่วยความจำ ความละเอียดหน้าจอ และเซนเซอร์ของกล้อง ซึ่ง Apple เป็นแบรนด์ที่เข้าใจปัญหานี้ของคนทั่วโลกเป็นอย่างดี เพราะหากสังเกตกันดี ๆ จะพบว่า Apple พยายามไม่นำเรื่อง Spec มาเป็นตัวชูโรงในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของตัวเอง รวมถึงพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ศัพท์เทคนิคยาก ๆ ที่ซับซ้อนมากที่สุด คำตอบง่าย ๆ ก็คือ Apple เลือกที่จะใช้การเปรียบเทียบ เพื่อนำเสนอว่าผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ดีกว่ายังไง โดยไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่เข้าใจ Spec ของอุปกรณ์ก็สามารถเข้าใจถึงความเหนือกว่าได้ทันที เช่น
- ปรับปรุงเซนเซอร์กล้องถ่ายภาพ รับแสงได้ดีขึ้น 49%
- หน่วยประมวลผล CPU แรงกว่าแบรนด์อื่นในตลาด 40%
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) เร็วขึ้นกว่าเดิม 18%
- หน่วยประมวลผลประหยัดพลังงานมากขึ้น 20%
นอกจากนี้ Apple ยังเลือกที่จะแสดงตัวอย่างให้เห็นอย่างชัดเจน โดยไม่จำเป็นต้องอธิบายให้เห็นด้วยตัวเลขเลยด้วยซ้ำ
ตัวอย่างที่ชัดเจนมากที่สุดก็คือ เมื่อปี 2007 ที่ Apple เปิดตัว MacBook Air รุ่นแรก ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่บางที่สุดในโลกในช่วงเวลานั้น แทนที่ Apple จะอธิบายว่า MacBook Air รุ่นนี้มีความหนากี่มิลลิเมตร Apple กลับเลือกที่จะอธิบายด้วยการนำ MacBook Air ใส่ไว้ในซองเอกสารสีน้ำตาล ซึ่งนั่นก็หมายความว่า นทั่วโลกกำลังได้เห็นนวัตกรรม “ความบาง” ของ MacBook Air รุ่นใหม่ในทันที โดยไม่จำเป็นต้องรับรู้ว่า MacBook Air รุ่นใหม่นี้มีความหนากี่มิลลิเมตร
ซึ่งนั่นก็หมายความว่า Apple ไม่ได้ต้องการขายผลิตภัณฑ์ของตัวเอง โดยให้ลูกค้าใช้ Spec เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจ แต่ต้องการขายแบรนด์ และประสบการณ์ที่จะได้รับจากการใช้งานจริงมากกว่า
4. ดึงความสนใจขั้นสุดท้ายด้วยการ Recap หลังจากที่ Apple นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จนจบแล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการ Recap หรือสรุปสิ่งที่ Apple ต้องการเน้นย้ำอีกครั้งในตอนท้าย ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้หน้า Recap ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple จะมีรูปแบบเป็นหน้าสไลด์ที่มีกรอบสี่เหลี่ยมขอบโค้งเล็ก ๆ โดยภายในสี่เหลี่ยมแต่ละกรอบนั้นจะระบุถึงฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในผลิตภัณฑ์แต่ละตัว และหากถามว่าทำไม Apple ต้องมีการ Recap ในลักษณะนี้ก็เป็นเพราะ Apple ต้องการย้ำให้ผู้ที่กำลังรับชมรู้สึกว้าวไปกับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เพิ่มขึ้น และการที่ Apple มัดรวมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เพิ่มขึ้นไว้ในหน้าเดียวนั้นก็จะยิ่งเป็นการกระตุ้นทำให้รู้สึกว่าผลิตภัณฑ์ของ Apple อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ผู้บริโภคแบบเราก็จะรู้สึก “อยากได้” ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple ขึ้นมาในทันทีนั่นเอง
นอกจากกลยุทธ์ทั้ง 4 ข้อ ที่ Apple ใช้ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่แล้วยังมีกลยุทธ์เล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่อีกเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำสไลด์นำเสนอที่ต้องเน้นใจความสำคัญเพียง 1 อย่าง ในสไลด์เดียว ไม่นำหลาย ๆ เรื่องมาปะปนกัน เพื่อทำให้การนำเสนอนั้นเข้าใจได้ง่าย จดจำได้มากที่สุด
เมื่ออ่านมาจนถึงตรงนี้คงพอรู้กันแล้วว่า Apple มีกลยุทธ์การนำเสนอและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ยังไงที่ทำให้เรารู้สึกว้าวและอยากได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ของ Apple อยู่เสมอ แม้ว่าความจริงแล้วเราอาจไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องใช้มันเลยก็ตาม และในครั้งหน้าที่ Apple จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าลืมลองสังเกตกันดี ๆ ว่า Apple ใช้กลยุทธ์แบบที่ว่านี้ จริงหรือไม่
ที่มา : Blockdit MarketThink
เรียบเรียง : nuttngow