คนไทยซื้อสินค้าผ่านโซเชียลมีเดีย มากสุดในโลก🛍️🌏
ผู้ประกอบการรายย่อยในประเทศไทยหรือบริษัทที่มีรายได้ไม่เกิน 50 ล้านบาท มี 6,703 ราย เพิ่มขึ้นเป็น 4.5 เท่า เมื่อเทียบกับ 5 ปีที่แล้ว โดยในความเป็นจริงแล้วพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จะมีเยอะกว่านี้มาก เพราะตัวเลขที่เราเห็นเป็นเพียงผู้ประกอบการที่จดทะเบียนอยู่ในระบบเท่านั้น
ช่วงที่ผ่านมาโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook และ TikTok กลายเป็นช่องทางขายของยอดฮิตสำหรับเจ้าของกิจการกลุ่มนี้ ไม่แพ้แอปอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada และ Shopee
ตลาดค้าปลีกออนไลน์ในบ้านเรามีมูลค่าราว 140,000 ล้านบาท
โดยนักช็อปออนไลน์ชาวไทย ทุก ๆ 100 คน แบ่งเป็น
72 คน ซื้อของผ่านเว็บไซต์ หรือช่องทางอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada และ Shopee
28 คน ซื้อของบนโซเชียลมีเดีย
โดยการขายของบนโซเชียลมีเดียก็จะมีตั้งแต่
โพสต์บนช่องทางส่วนตัว เช่น Instagram , Twitter และ Facebook
Chat เช่น Line หรือ Messenger
ไลฟ์ เช่น TikTok หรือ Facebook
ซึ่งในปัจจุบันนี้คนไทยใช้โซเชียลมีเดียซื้อของกันเยอะมาก จากผลสำรวจพบว่าคนไทยทุก ๆ 100 คน จะมีมากถึง 88 คน ที่มีการซื้อสินค้าผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย สัดส่วนนี้เรียกได้ว่าเป็นสัดส่วนที่มากสุดในโลก โดยการเติบโตของตลาดซื้อขายสินค้าบนโซเชียลมีเดียในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาหลัก ๆ จะเป็นผลมาจาก “คนไทยคุ้นเคยกับการซื้อของออนไลน์ไปแล้ว” ซึ่งมาจากการล็อกดาวน์ในช่วงโควิดที่ผ่านมา ทำให้สินค้าแทบทุกชนิดที่เคยเน้นขายหน้าร้านก็ต้องปรับตัวและหันเข้าหาตลาดออนไลน์เช่นกัน ถึงแม้ในปัจจุบันสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่การซื้อของออนไลน์ก็ยังได้รับความนิยมเพราะผู้บริโภคเสพติดความสะดวกสบายจนเคยชิน
ความนิยมโซเชียลของคนไทยปัจจุบันมีมากถึง 52.25 ล้านบัญชี คิดเป็นสัดส่วนถึง 73% ของจำนวนประชากรทั้งหมด ในขณะที่คนไทยใช้โซเชียลมีเดียกันเฉลี่ยมากถึง 2 ชั่วโมง 44 นาที ในแต่ละวัน
เมื่อช่องทางในการขายมีทั้งคนเล่นเยอะ ทั้งคนเล่นนาน พอจับมาคูณกันก็เท่ากับว่าโอกาสในการปล่อยของของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ซึ่งเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ในระยะหลังเราจึงสังเกตได้ว่านอกจากจะมีพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของจริงจังแล้ว ก็จะมีอีกกลุ่มหนึ่งที่ใช้โซเชียลมีเดียทั้งสร้างตัวตน สร้างคอนเทนต์ สร้างแบรนด์ พร้อม ๆ ไปกับการขายของด้วยเหมือนกัน
ที่มา : Blockdit - ลงทุนแมน